Skip to main content

เมืองแต้จิ๋ว潮州市

 เมืองแต้จิ๋ว 潮州市 ตอนที่ 3

📣เมืองแต้จิ๋ว เป็นเมืองสุดท้ายที่เราจะเขียนถึงในภูมิภาคเฉาซ่าน (เตี่ยซัว) แล้วนะครับ แต่ก็ยังคงเหลืออีกหลายตอน และแต่ละตอนก็ยาวมาก แม้ว่าเราจะตัดข้อมูลบางส่วนออกไปแล้ว ซึ่งน่าเสียดายมากจริง ๆ แต่ขณะนี้ผมและทีมงานได้ตัดสินใจว่าจะจัดทำหนังสือ E-book ที่รวบรวมรายละเอียดภูมิภาคดินแดนเฉาซ่าน (เตี่ยซัว) ซึ่งเป็นการลงลึกรายละเอียดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดทางวัฒนธรรม อารยธรรม อาหารพื้นเมืองในเขตต่าง ๆ สถานที่ท่องเที่ยวและการเดินทาง


🌹ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นทั้งแรงเชียร์ และแรงกำลังใจที่ทำให้เกิดหนังสือ E-book เล่มนี้ขึ้นมาแม้ว่าจะต้องเสียทรัพยากรทางความคิด ทรัพยากรเวลา และทรัพยากรประสบการณ์ ที่ต้องใช้มากกว่าการพาทัวร์อีกเท่าตัว แต่โดยส่วนตัวก็ภาคภูมิใจเป็นที่สุดที่สามารถรวบรวมหนังสือในตำนานเล่มนี้ได้สำเร็จ และลูกหลานจีนหรือท่านที่สนใจภูมิภาคแห่งนี้ได้มีโอกาสเก็บE-BOOK เล่มนี้ไว้ในความทรงจำและหวนระลึกถึงหมู่ญาติบรรพบุรุษที่มาจากแดนไกลอีกด้วย…….Villy👦


👉กำหนดการวันวางจำหน่ายและรายละเอียดการสั่งจองหนังสือ E-Book จะแจ้งให้ทราบภายหลังเมื่อเสร็จสิ้นบทความเมืองแต้จิ๋วทั้งหมดแล้วนะครับ......ยังไม่รับจองตอนนี้นะครับ😹

-------------------------------------------------------💝💝💝


💁‍♀️เมืองแต้จิ๋ว 潮州市นั้น ได้รับการยกย่องว่า เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์และอารยธรรมอันยาวนานของประเทศจีน ของมณฑลกวางตุ้ง และยังได้ถูกยกย่องให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นที่สุดแห่งประเทศจีนอีกด้วย แม้แต่ในสมัยโบราณก็ยังมีคำพูดที่กล่าวถึงความงามของเมืองแต้จิ๋วไว้ว่า เป็นเมืองที่มีสุดยอดความงามแปดแห่ง (เตี่ยจิวโป้ยเก้ง) 潮州八景 


🔘ซึ่งแยกออกเป็นสองส่วนคือ ส่วนด้านในแปดแห่ง ที่หมายถึงสถานที่ท่องเที่ยวภายในกำแพงเมือง คือบริเวณเมืองเก่า และส่วนด้านนอกกำแพงเมืองอีกแปดแห่ง ที่หมายถึงบริเวณ

แม่น้ำหั่งกัง 韩江 คือบริเวณสะพานเซียงจื๋อเกี้ย 湘子桥ในปัจจุบันนั่นเอง สถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดแปดแห่งทั้งในและนอกกำแพงเมืองที่ได้กล่าวถึงในครั้งอดีตนั้น ปัจจุบันจะมีเพียงบางแห่งเท่านั้นที่ยังพอหลงเหลือเค้าโครงเดิมและการท่องเที่ยวได้เข้ามาบูรณะซ่อมแซ่มให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวโบราณ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณนอกกำแพงเมืองเก่า ส่วนด้านในกำแพงที่เป็นเมืองเก่านั้นถูกทำลายจนหมดสิ้นแล้ว คงเหลือแต่หมู่อาคารโบราณเก่า ๆ เท่านั้น ที่ยังพอสามารถเข้าชมกันได้ (ขณะนี้ทางส่วนกลางเข้าทำการบูรณะซ่อมแซมเพื่อการอนุรักษ์และการท่องเที่ยว)


⛳1.สะพานเซียงจื๋อเกี้ย湘子桥 หรือ สะพานกวงจี๊เกี้ย 广济桥หนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองแต้จิ๋ว เป็นสุดยอดแห่งผลงานการก่อสร้างของชาวแต้จิ๋วในราชวงศ์ซ่ง ในราวปี 1171 ประมาณกว่า 800 ปีที่แล้ว สร้างอยู่นอกกำแพงเมืองแต้จิ๋วทางด้านประตูเมืองตะวันออก เป็นสะพานที่พาดผ่านแม่น้ำ

หั่งกัง 韩江 เดิมทีเป็นแค่เรือลำเล็ก ๆ 86 ลำผูกเข้าด้วยกัน เพื่อทำหน้าที่เป็นเหมือนสะพานที่พาข้ามฝากไปเท่านั้น ซึ่งเป็นรูปแบบดั้งเดิม เหมือนที่เมืองก้านโจว 赣州 มณฑลเจียงซี ที่ติดกับมณฑลกวางตุ้ง 


🔘รูปแบบของสะพานได้มีการปรับเปลี่ยนมาตลอดในทุกยุคทุกสมัย จนกลายเป็นสะพานที่มีการเชื่อมต่อระหว่างตอม่อด้วยเรือลำเล็ก ๆ เพื่อให้เกิดความสะดวก และง่ายต่อการสันจร และมีการสร้างศาลาพักบนตอม่อสะพานด้วยอีก 24 จุด และช่วงกลางสะพานจะยึดโยงด้วยเรือลำเล็ก ๆ อีก 18 ลำ ซึ่งกลายเป็นลักษณะพิเศษของสะพานเซียงจื๋อเกี้ยแห่งนี้ ที่กลายเป็นแลนด์มาร์คของเมืองแต้จิ๋ว และความยิ่งใหญ่ของสิ่งก่อสร้างนี้ก็ถูกเล่าต่อ ๆ กันมา 


🔘จนกลายเป็นวลีเด็ดของชาวจีนที่มักจะพูดว่า 到广不到潮枉费走一遭 หรือ 到潮不到桥 白白走一场 หมายถึงว่า มาถึงเมืองแต้จิ๋วแล้ว ไม่มาเที่ยวสะพานแห่งนี้ ก็เท่ากันสูญเวลาเปล่า


🔘สะพานเซียงจื๋อเกี้ย湘子桥 ยังได้ชื่อว่าเป็นสะพานที่สามารถเปิดปิดได้แห่งแรกของโลกพร้อมทั้งยังเป็นหนึ่งในสี่สะพานที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศจีนอีกด้วย และสำหรับท่านที่จะไปชมสะพานเขามีเก็บค่าผ่านสะพานท่านละ 20 หยวน คือ ประมาณหนึ่งร้อยบาท เปิดตั้งแต่ 10.00 – 17.15 น. เวลา 17.30 เรือลำเล็ก ๆ 18 ลำ ที่อยู่กลางแม่น้ำจะถูกเก็บหมด 


🔘และถ้ามาช่วงค่ำ ๆ บริเวณสะพานและบริเวณกำแพงเมืองที่อยู่ใกล้ ๆ กันนี้ก็จะเปิดไฟสวยงาม และอย่าลืมไปชมรูปปั้นควายเหล็กที่ตั้งอยู่ตรงเชิงสะพาน เป็นสิ่งที่สร้างขึ้นเพราะเชื่อว่าสามารถลดความแรงของอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นประจำที่น่านน้ำนี้ได้ ควายเหล็กนี้ได้สร้างขึ้นในสมัยหย่งเจิ้น ในราชวงศ์ชิง โดยสร้างขึ้นสองตัว ตัวหนึ่งตั้งอยู่ทางเชิงสะพานด้านตะวันออก อีกตัวหนึ่งตั้งอยู่ที่เชิงสะพานทางด้านตะวันตก ปัจจุบันเหลือแค่ตัวเดียวคือทางด้านตะวันออก ซึ่งอีกตัวนั้นหายสาบสูญจากน้ำท่วมใหญ่ที่ได้พัดพาวัวเหล็กนี้ไปด้วย และก็หายสาบสูญไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


👉ช่วงกำหนดเวลาในการเปิดไฟบนสะพานในช่วงกลางคืนคือ 19.00-22.30 น.  

และในช่วงเทศกาลวันหยุดคือ 19.00-23.00 น.  

ส่วนช่วงเวลาที่แสดงแสงไฟคือ รอบแรก 21.00-21.16 น. รอบที่สอง 22.00-22.16น. 

สำหรับช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ จะเป็นเวลา 

รอบแรก 20.00-20.16 น. รอบที่สอง 21.00-21.16 น.


⛳2.ประตูและกำแพงเมืองเก่ากวงจี้ 广济门城楼 หรือประตูเมืองแต้จิ๋ว

ประตูเมืองแห่งนี้เดิมเรียกว่า ประตูหอตะวันออก (ตังมึ้งเล้า) 东门楼 อยู่ตรงข้ามกับสะพานเซียงจื๋อเกี้ย湘子桥ซึ่งเป็นหนึ่งในประตูและกำแพงโบราณทางด้านตะวันออกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ซึ่งแต่ละประตูโบราณนั้น จะประกอบด้วยหอซึ่งเป็นอาคารที่สร้างเหนือขึ้นไปจากกำแพงเมือง เพื่อใช้ประโยชน์ในการดูสภาพความเป็นไปนอกตัวเมือง ปัจจุบันนี้หอตะวันออกนี้ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ในการจัดแสดงเรื่องราวประวัติและความเป็นมาของสะพานเซียงจื๋อเกี้ย 


🔘ประตูและกำแพงเมืองเมืองเก่ากวงจี้ สร้างในสมัยราชวงศ์หมิง ราวปี 1370 มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 600 ปี ส่วนอาคารหรือหอบนกำแพงเมืองนั้น เป็นการสร้างเลียนแบบสถาปัตยกรรมแบบวังหลวง โดยมีชายคาที่สร้างลดหลั่นกันไป เป็นรูปแบบของเนินเขา และประดับด้วยกระเบื้องกระจกสีแดงบนผนัง และเสาไม้ที่ถูกแกะสลักด้วยลวดลายที่งามวิจิตร  


🔘ประตูกำแพงเมืองเก่ากวงจี้ 广济门城楼 เป็นประตูกำแพงหรือหอตะวันออกที่สวยงามและแข็งแรงที่สุด ส่วนประตูหรือกำแพงทางด้านทิศเหนือ ใต้ และทางตะวันตกนั้นล้วนชำรุดทรุดโทรมและยากที่จะซ่อมแซมใหม่ได้  

ส่วนกำแพงตะวันออกนั้น มีประตูเมืองทางทิศนี้อยู่สี่แห่ง และประตูเมืองกวงจี้ หรือหอกวงจี้ 广济楼 เป็นหนึ่งประตูเมืองและหอทางตะวันออกที่สวยงามที่สุด ชาวจีนแต้จิ๋วบางท่านจะเรียกว่า หอแม่น้ำหั่งกัง 韩江楼 เป็นโบราณสถานที่สร้างในราชวงศ์หมิง ประมาณปี 1370 แต่ก็มีการซ่อมแซมต่อเนื่องมาทุกยุคสมัย 


🔘การสร้างหอกวงจี้ 广济楼 มีการวางแบบแปลนการสร้างอย่างแยบยล ซึ่งหอทางด้านนี้ คือด้านตะวันออก ซึ่งเป็นทิศที่สามารถเห็นแม่น้ำหั่งกัง 韩江 ได้ชัดเจนที่สุด พร้อมทั้ง

สะพานกวงจี้ 广济桥 ก็อยู่ทางด้านนี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น 

หอกวงจี้ ที่สร้างอยู่เหนือกำแพงเมืองนั้น จึงเป็นจุดชมวิวแม่น้ำที่ดีที่สุด และบนหอกวงจี้นั้น ยังออกแบบให้มีหน้าต่างล้อมรอบที่สามารถชมแม่น้ำได้ทุกทิศทุกทาง  


🔘ดังคำเขียนโบราณที่เขียนไว้ในตำนานเมืองแต้จิ๋วว่า 

มาหอตะวันออกชมเมืองแต้จิ๋ว (ตังเล้ากวงเตี๊ย) 东楼观潮 หรืออาจจะหมายถึง มาหอตะวันออกชมระลอกน้ำก็ได้ เพราะคำว่า เตี๊ย 潮 จะแปลว่าระลอกน้ำก็ได้


🔘หอกวงจี้ 广济楼 มีสามชั้นและมีความสูง 18.85 เมตร และบนหอชั้นที่สามนั้นได้มีการนำเอานาฬิกาบรอนซ์ในสมัย

ราชวงศ์ซ่งใต้มาเก็บรักษาไว้ที่นี่ด้วย กำแพงเมืองทางด้านตะวันออกนี้ยาวประมาณสองกิโลเมตร และยังมีอีกสามประตูที่เป็นประตูรองคือ ประตูเจี่ยจุ้ยมึ้ง 上水门 ประตูเต็กบักมึ้ง 竹木门 และประตูเหี่ยแอ่จุ้ยมึ้ง 下水门


⛳3.ถนนคนเดินไป่ฮวงโกย 牌坊街

ไป่ฮวงโกย 牌坊街 เป็นหมู่ซุ้มประตูโบราณที่สร้างไว้เพื่อเทิดทูนและสดุดีบุคคลผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับเมืองแต้จิ๋ว โดยการสลักชื่อไว้บนประตู ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นชื่อของบัณฑิต นักปราชญ์ เสนาธิการ และเป็นอำมาตย์ในวังหลวง ซึ่งท่านเหล่านี้จะเป็นผู้บริหารงานที่บางท่านเดินทางมาจากเมืองหลวงหรือเป็นชาวแต้จิ๋วที่นำชื่อเสียงกลับมาสู่ผืนแผ่นดินเกิด ยังความภาคภูมิใจให้กับชาวจีนแต้จิ๋วเป็นอันมาก จึงได้เกิดเป็นซุ้มประตูที่จารึกชื่อของท่านเหล่านั้น เพื่อเป็นเกียรติประวัติ และเป็นตัวอย่างให้ลูกหลานชาวจีนทุกคนได้รู้สำนึกถึงพระคุณของท่านเหล่านั้น ซึ่งเป็นอีกสถานหนึ่งที่ลูกหลานชาวจีนแต้จิ๋วโพ้นทะเลทุกท่านเมื่อมาถึงเมืองแต้จิ๋วแล้วควรจะต้องแวะมาชื่นชมเกียรติประวัติของบรรพบุรษหรือเหล่าวีรชนผู้กล้าแห่งเมืองแต้จิ๋วกัน


🔘คำว่าไป่ฮวง 牌坊 หมายถึงซุ้มประตู ชาวจีนโบราณนิยมการจารึกชื่อสถานที่สำคัญต่าง ๆ ไว้บนซุ้มประตูจีนแบบนี้ ส่วนใหญ่ซุ้มประตูจะก่อด้วยอิฐ หรือดินผสมไม้ และที่ซุ้มประตูแห่งนี้เดิมทีก่อด้วยไม้ทั้งหมดที่ได้ปรากฎในสมัยราชวงศถัง และราชวงศ์ซ่ง และจารึกชื่อผู้มีคุณูปการต่อแผ่นดินชาวแต้จิ๋วทุกท่าน จุดมุ่งหมายเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ จนมาถึงสมัยราชวงศ์หมิงซุ้มประตูเหล่านี้ได้เปลี่ยนเป็นซุ้มประตูหินซึ่งให้ความแข็งแรงและมั่นคงกว่า  


🔘ยิ่งไปกว่านั้นในสมัยราชวงศ์ชิงซุ้มประตูจีนเหล่านี้ยังมีการพัฒนาไปในรูปแบบการผสมผสานระหว่างรูปแบบตะวันตกและตะวันออก ตามความนิยมของยุคสมัย ที่ชาวตะวันตกเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในประเทศจีน นอกจากการออกแบบการสร้างซุ้มประตูเพื่อมุ่งหวังในการเชิดชูปูชณียบุคคลแล้ว ยังมุ่งหวังเรื่องความสวยงามอีกด้วย เช่น บางแห่งก็จะสร้างหรือออกแบบเป็นชั้นเป็นเชิง แบบสองเสาค้ำยันกับหนึ่งประตู หรือแบบสี่เสาค้ำยันสามประตูก็มี และมีลวดลายต่าง ๆ บนซุ้มประตูเพื่อเป็นเกียรติแก่ชื่อสถานที่หรือชื่อบุคคลที่ปรากฎอยู่บนซุ้มประตู   


🔘ในปี 1951 นั้น ซุ้มประตูจะเหลืออยู่แค่ 19 หลังเท่านั้น และเนื่องจากหมู่ซุ้มประตูเหล่านี้มักจะกีดขวางการจราจร และทำให้เกิดอุบัติเหตุจากชิ้นส่วนที่ชำรุดของประตูที่หล่นลงมาทับคนที่เดินทางสัณจรไปมากันบ่อย ๆ ทำให้ต้องมีการรื้อในส่วนที่ชำรุดและที่กีดขวางทาง และการทำการรื้อนั้น ได้มีการถ่ายรูปซุ้มประตูเดิม เพื่อเป็นแบบในการก่อสร้างใหม่และไม่ให้ผิดเพี้ยน แต่ที่โชคดีคือ ชาวจีนแต้จิ๋วในรุ่นหลัง ๆ กลับได้เห็นหน้าตาของซุ้มประตูโบราณในอดีตจากรูปภาพเดิมที่ได้ถูกถ่ายเก็บไว้ และแม้ว่าซุ้มประตูบางส่วนได้ถูกรื้อและได้สร้างหรือซ่อมแซมใหม่ แต่ชิ้นส่วนสิ่งก่อสร้างเดิมทั้งหมดได้ถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์


🔘และในปี 2006 เมืองแต้จิ๋วได้ทำการบูรณะหมู่ซุ้มประตูนี้อีกครั้ง ซึ่งมีทั้งหมดมี 22 หลัง ซึ่งการบูรณะและการซ่อมแซมครั้งนี้ ได้มุ่งหวังในเรื่องการท่องเที่ยวด้วย จึงทำให้กลายเป็น Concept เที่ยวเมืองแต้จิ๋วนอกกำแพงเมืองเก่าที่แวดล้อมด้วยหมู่สิ่งก่อสร้างโบราณ เช่น ประตูกำแพงเมืองเก่ากวงจี้ 广济门城楼 หอกวงจี้ 广济楼 สะพานกวงจี้ 广济桥 หออนุสรณ์ท่านหั่งยู่ 韩文公祠 และ วัดไคง้วน 开元寺 


🔘หมู่ซุ้มประตูโบราณไป่ฮวง 牌坊街แห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในเส้นทางการท่องเที่ยวตามอารยธรรมและวัฒนธรรมชาวแต้จิ๋วด้วย และการก่อสร้างในครั้งนี้เมื่อเสร็จสิ้นลงก็ไม่อนุญาตให้รถขนาดใหญ่ หรือรถยนต์สามารถวิ่งผ่านเข้ามาได้อีกเลย กลายเป็นถนนคนเดินที่ทุกท่านสามารถเดินได้อย่างสบายใจ และยังทำให้ซุ้มประตูโบราณเหล่านี้ลดการถูกกระทบกระเทือนจากการสั่นสะเทือนของรถราที่ผ่านไปมาได้อีกด้วย 


👉เมืองแต้จิ๋ว 潮州市 เป็นเมืองหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดของมณฑลกวางตุ้งตะวันออก เสมือนเมืองหลวงของชาวจีนแต้จิ๋วก็ว่าได้ ในอดีตนั้นเมืองแต้จิ๋วเป็นเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางการบริหารงานของรัฐบาลส่วนกลาง จึงมีขุนนางผู้ใหญ่เข้าออกเมืองนี้กันมากมาย ซึ่งท่านเหล่านี้ก็คือผู้ที่เข้ามาบริหารงานในเมืองแต้จิ๋ว ยิ่งในสมัยราชวงศ์ซ่ง จำนวนขุนนาง และผู้ปกครองในเมืองแต้จิ๋วก็มากมายเป็นเท่าตัว ล้วนเป็นบุคคลที่มีคุณูปการต่อเมืองแต้จิ๋วอย่างสูงสุด  

ดังนั้น จึงมีการสร้างซุ้มประตูอนุสรณ์ของท่านเหล่านั้นกันมากขึ้น  


👉ในประวัติศาสตร์เมืองแต้จิ๋ว เคยมีการสร้างซุ้มประตูอนุสรณ์กันมากที่สุดคือ 91 หลัง ดังเคยมีผู้เรียกขานเมืองแต้จิ๋วว่า เป็นเมืองแห่งซุ้มประตู (ไป่ฮวงเซี้ย)牌坊城 และซุ้มประตูส่วนใหญ่จะเป็นแบบสองเสาค้ำหนึ่งประตู ซึ่งภายนอกดูโอ่อ่าและสง่างามมาก จนเป็นที่มาแห่งถนนคนเดินไป่ฮวงโกย 牌坊街


(😭ยังไม่จบนะครับ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารที่จะแนะนำอีกมากนะครับ...... )


IG💁‍♂:https://www.instagram.com/villyjourney

💃🕺

#ถ้ามั่นใจก็ไปด้วยกัน

#มีความสุขบนเส้นทางที่แตกต่าง

#เที่ยวกับเราไม่มีวันout。。。。。。Villy👦